JUSTIN JEAN

"กางเกงยีนส์จัสตินเป็นกางเกงยีนส์แบรนด์ของคนไทยที่มีแนวคิดเป็นของตัวเองเป็นยีนส์แบรนด์แรกๆเลยก็ว่าได้ที่ทำกางเกงยีนส์ขาดเซอร์โดยเจ้าของแบรนด์เป็นคนรักยีนส์และอยากให้คน

ประวัติจัสติน

จัสติน ยีนพันธุ์เซอร์ แบรนด์ไทย หัวใจสากล
เป็นเรื่องจริงสำหรับวิถีการสร้างแบรนด์ กับวิถีแห่งการก๊อบปี้ ที่มักจะเกิดและเดินตามกันเสมอๆ ถ้าสินค้าแบรนด์นั้นๆ เป็นที่ต้องตาต้องใจผู้บริโภค และหากการก๊อบปี้เกิดขึ้นกับแบรนด์ใด
เจ้าของแบรนด์นั้นก็มักจะต้องทำงานมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพื่อเดินล้ำนำหน้า คงความเป็นผู้นำแห่งการครอบครองสิทธิ์แห่งการเป็นออริจินอลแบรนด์
และยิ่งถ้าเป็นแบรนด์ไทย ทุนไม่สูง การรักษาสิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของยิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย


"จัสติน" แบรนด์ยีนสัญชาติไทย เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่มีเส้นทางการสร้างแบรนด์ ไม่เรียบรื่น แต่ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะต้องผจญกับอุปสรรคหลากหลายรูปแบบรวมถึงปัญหาการก๊อบปี้ด้วย คุณมัลทนา เกียรติภักดีกุล และคุณอรุณี บุญธรรม คือพี่น้องผู้ร่วมปลุกปั้นสร้าง แบรนด์ "จัสตินยีน" เล่าว่า มันทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย กับการวิ่งไล่ตามคนก๊อบปี้แบรนด์เรา
และที่แย่กว่านั้นก็คือเราเป็นรายเล็ก ขณะที่คนก๊อบปี้เป็น รายใหญ่ งานมันก็ยิ่งหนัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำก็คือ ถ้าเมื่อใดที่เรา จับเราจะไม่เคลียร์ จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาตามกฎหมาย
"ที่พูดว่าไล่จับๆ เราไม่ได้มีงบประมาณจ้างทีมงานไล่ล่า แต่เรารู้จากลูกค้าที่รับสินค้าเราไปขายนี่แหละ ที่เขาเป็นคนแจ้ง เพราะเวลาเจอสินค้าก๊อบปี้จัสตินยีน มันจะชัดเจนมากในเรื่องของราคา
จัสตินยีนที่เราผลิตและขายในตลาดมีหลายรุ่น สนนราคาเริ่มต้น ก็ไม่ต่ำกว่า 500-600 บาท บางรุ่น 1,500-1,800 บาท แต่ของก๊อป 199 บาท ซึ่งมันส่งผลกระทบทั้งกับเราและลูกค้า เพราะสินค้าขายไม่ออก ทำให้เราอยู่เฉยไม่ได้ เราเป็นออริจินอล ผลิตเป็นหลักร้อยตัว แต่คนก๊อบปี้เรามีทุนเยอะ ผลิตทีเป็นพันตัว เอาตำรวจไปจับ ค้นโกดัง โอโห ! กองสุมๆ กันเป็นพัน ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย
เราอยู่ไม่ได้หรอก ...



ช่วงที่ผ่านมางานของเราส่วนหนึ่งจึง เป็นเรื่องการวิ่งไล่จับสินค้าก๊อบปี้ ซึ่งเป็นงานที่ไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำ เพราะถือเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ผู้ประกอบการรายเล็กๆ ต้องเรียนรู้และสอบผ่านให้ได้ ขณะเดียวกันก็มีงานที่ต้องทำหนักยิ่งกว่าคือ งานดีไซน์เพื่อวิ่งนำหน้าในการสร้างแบรนด์ยีนให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค พร้อมกับทำตลาด ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ควบคู่ไปด้วย "สินค้ายิ่งถูกก๊อบปี้ เราก็ต้องวิ่งหนี โดยใช้ดีไซน์ ใช้ความแตกต่าง ควบคู่กับการรักษาคุณภาพสินค้า" อรุณี บุญธรรม หนึ่งในทีมงานด้านการออกแบบจัสตินยีนกล่าว และว่าถ้าเราใช้งานออกแบบยีนจัสตินให้มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว จะชวยในแก้ปัญหาก๊อบปี้ได้บ้าง

"ยีนก๊อบปี้เขาจะไม่ค่อยพิถีพิถันในเรื่องคุณภาพการตัดเย็บ เรื่องดีไซน์ เขาไม่มานั่งดูหรอกว่า ยีนตัวนี้จะทำริ้วให้เกิดตรงหน้าขา หัวเข่า ขอบขา หรือเอว ผ้าสั่งมา เข้าโรงงาน โรงงานผลิตเสร็จ ติดโลโก้จัสติน ก็ส่งขาย แต่สำหรับจัสตินที่เป็นของแท้ เราค่อนข้างละเอียดในเรื่องดีไซน์ คือ ถ้าสามารถทำแบบเทเลอร์เมดได้ เราจะทำ เพราะงานทุกตัวเวลานี้แฮนด์เมด"

ความหมายของงานดีไซน์และงานแฮนด์เมดยีน อรุณีอธิบายว่า งานยีนทั่วๆ ไปก็คือ สั่งผ้ายีนมา ตัดๆ แล้วก็จบ แต่ของเราคือ เราต้องมาดูว่ายีนที่เราจะทำ กลุ่มเป้าหมายคือใคร ถ้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น ตอนนี้เขาชอบแบบไหน ถ้าชอบยีนเก่าๆ ขาดๆ จะทำขาดตรงไหนให้เนียน ให้ดูว่าเป็นรอยขาดตามธรรมชาติ ฯลฯ จากนั้นก็ใช้ช่างทำให้ขาด อาจจะใช้หินภูเขาไฟขัดหรือใช้กระดาษทรายขัด ก็ขึ้นอยู่กับริ้วรอยที่อยากจะให้ขาด ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือพอสมควร

"ซึ่งการขายยีนเก่า ยีนขาด ที่เป็นของใหม่แต่มาทำให้ขาด จัสตินน่าจะเป็น รายแรกๆ ที่ผลิตออกมาและทำตลาด"

ก่อนหน้านี้ ชื่อของ JUSTIN อาจจะไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก เพราะมีจุดขายหลักอยู่ที่สวนจตุจักร โครงการ 5 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นร้านออริจินอล ลูกค้าที่รู้จักจัสตินช่วงแรกๆ ก็คือที่นี่ จากนั้นเมื่อชอบงาน ชอบดีไซน์ ก็เกิดอาการบอกต่อปากต่อปาก จนตอนหลังก็ขยับขยาย มีร้านค้าส่งอยู่ที่ซิตี้คอมเพล็กซ์ มีร้านขายปลีกอยู่ตามห้างสรรพสินค้าอีกหลายจุด ทั้งในเซ็นทรัล และเดอะมอลล์ หลายสาขา รวมถึงห้างดังๆ ในต่างจังหวัด ทำให้จัสตินต้องขยับโดยใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์เข้าช่วย ซึ่งวิธีการที่ใช้ก็น่าสนใจ น่าศึกษา สำหรับเอสเอ็มอีที่ทำแบรนด์แฟชั่นไทย คุณมัลทนา เกียรติภักดีกุล
กล่าวว่า "กลยุทธ์การทำโฆษณาที่เป็นคีย์พอยต์ หลักๆ คือ การใช้คอนเน็กชั่นสร้างแบรนด์ผ่านดนตรี ดารา และละคร ซึ่งเป็นการใช้สื่อที่ได้ผลในวงกว้าง แต่ทว่าใช้เงินไม่สูง"
ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นโฆษณาผ่านทางดนตรี เราก็จับกับคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม 95 ซึ่งวางแผนร่วมกันทั้งปีเลยว่า ทั้งปี เขา จะมีกิจกรรมอะไรบ้าง และเราจะเข้าไปสนับสนุนตรงไหน อย่างไร และเราจะได้อะไร
แต่เราไม่ลงเป็นตัวเงิน แต่ลงเป็นสินค้าและมีการแปลงเป็นเงิน ซึ่งกับคลื่น 95 นั้น ค่อนข้างได้ผลในเรื่องการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ เพราะคลื่นนี้ค่อนข้างกว้าง

ส่วนช่องทางดาราละคร หรือรายการทีวี นั้น ใช้คอนเน็กชั่นเป็นหลัก
"รู้จักดาราคนนี้ ก็แนะนำให้ลองใส่ เพราะเห็นดาราที่ใส่ดี ก็จะมีคนทัก คนถาม ก็จะเกิดการบอกต่อและบอกต่อ หรืออย่างล่าสุด ก็ได้ทำยีนให้ดาราในเรื่องเสาร์ 5 ทางช่อง 7 ใส่ที่กำลังจะออนแอร์ เร็วๆ และก็ได้สิทธิ์ใช้ภาพที่ดาราใส่มาติดที่ร้านด้วย"

คุณมัลทนา บอกว่า ในหนังเรื่องเสาร์ 5 มีพระเอกหลายคน เราดีไซน์กางเกงของแต่ละคนให้มีดีไซน์เฉพาะตัว แบบที่ออกจะไม่เหมือนกันเลย เพราะใช้บุคลิกของดารามาใช้ในการออกแบบด้วย ซึ่งพอออกแบบมา ดาราที่ใส่ชอบก็สั่งตัดเพิ่มบ้าง จากนั้น เราก็ได้สิทธิ์นำภาพดาราที่ใส่ยีนจัสตินมาใส่ที่ร้าน พอลูกค้ามาเห็น เขาก็บอกเลยว่าจะซื้อทรงนี้ แบบนี้ ซึ่งค่อนข้างได้ผลมาก
จากเมื่อก่อนที่ยีนจัสตินจะจับลูกค้าวัยรุ่น อายุ 15-25 ซึ่งส่วนเป็นนักเรียนนักศึกษา วัยเริ่มต้นทำงาน พอช่วงหลังๆ ก็ขยายเพิ่มเป็นวัยกลางคน ก็ใส่ยีนจัสตินได้

คุณ มัลทนา กล่าวตอนท้ายว่า ถ้านับอายุ ของจัสตินจนถึงปัจจุบัน ก็ประมาณ 9-10 ปี ผ่านอุปสรรคนานารูปแบบ รวมถึงสถาน การณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ที่ส่งผลทำให้ยอดตกไปบ้าง แต่ยอมรับว่าการมีแบรนด์ที่ทำควบคู่กับคุณภาพและดีไซน์ทำให้เรายังอยู่ได้

จากการที่ได้สัมภาษณ์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับยีนส์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นการทำยีนส์ที่ใช้เวลาทำถึง8 ชม./ตัวและที่ไม่หน้าเชื่อว่าปัจจุบันยังมีงาน Hangdmadeในงานประเภทกางเกงยีนส์ ที่ใช้คนทำ1คนต่อ1ตัว ในการทำกางเกง เพราะปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่จะนิยมแบรนด์ต่างประเทศที่มีราคาแพงแต่กับคิดว่าถ้าเป็นแบรนด์ของคนไทยที่มีราคาถูกอาจจะไม่ดีหรือมีเนื้อผ้าที่ไม่ได้สั่งมาจากต่างประเทศหรือแบบที่ไม่ทันสมัยเราเลยไม่คิดจะใช้ของคนไทย แต่ด้วยความคิดที่อยากให้คนไทยได้ใช้ของไทยที่มีราคาถูกและดี ทางแบรนด์จัสตินจึงได้ใส่ใจทุกรายลเอียดและความต้องการของลูกค้า ยกตัวอย่างกางเกงยีนส์จัสตินแทบทุกแบบที่คนไทยใส่ไม่ค่อยมีปัญหาในการแก้ทรง จึงอยากให้คนไทยหันมาใช้ของไทยสนับสนุนแบรด์คนไทยด้วยกัน